ทฤษฎีั"ยาห์เวห์พระเจ้าผีกำจัดผู้ไม่ติดตาม" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีกำจัดผู้ไม่ติดตาม” ด้วยมีโทษถึงตายหากมนุษย์โลกคนใด ปฏิเสธการติดตามพระเจ้าผี

บางส่วนในไบเบี้ย

13 That whosoever would not seek the LORD God of Israel should be put to death, whether small or great, whether man or woman. (2Chronicles 15:13)

13 หากใครไม่แสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลจะีมีโทษถึงตาย ไม่ว่าผู้น้อยหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง (2พงศาวดาร 15:13)

14 And they sware unto the LORD with a loud voice, and with shouting, and with trumpets, and with cornets. (2Chronicles 15:14)

14 เขา​ทั้ง​หลาย​สา​บาน​ต่อ​พระ​ยาห์​เวห์​ด้วย​เสียง​ดัง ด้วย​การ​โห่​ร้อง และ​ด้วย​เสียง​แตร​และ​เขา​สัตว์ (2พงศาวดาร 15:14)

การติดตามยาห์เวห์พระเจ้าผีช่างง่ายดายอะไรเช่นนี้ แค่การตะโกนให้เสียงดัง, การส่งเสียงโห่ร้อง, การเป่าแตรและเขาสัตว์ นี้เป็นการมัดมือชกหรือเปล่า ทั้งการแสดงคอนเสริต์ การตะโกนสั่งงานจากข้างสนามฟุตบอล การเดินพาเหรด การเป่าสัญญาณแตรสัญญาณ

คำถามคือ

1.แม้ไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ แต่ถ้าตะโกนเสียงดังด้วยข้อความใดๆก็ตาม แสดงว่าเป็นผู้ติดตามยาห์เวห์พระเจ้าผีแล้วใช่หรือไม่.

2.การผายลมด้วยเสียงอันดัง เป็นการสาบานต่อพระเจ้าผีใช่หรือไม่.

ทฤษฎี"อัลลอฮฺพระเจ้าผีสั่งฟ้าให้แยกได้" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”อัลลอฮฺพระเจ้าผีสั่งฟ้าให้แยกได้” ด้วยอัลลอฮฺพระเจ้าผีอวดอิทธิฤทธิ์ สามารถสั่งฟ้าสั่งแผ่นดิน หลักฐานดังนี้

บางส่วนในไบเบี้ย

1 When the heaven is split asunder (Surah 84. Al-Inshiqaq, Part30)

1 เมื่อชั้นฟ้าได้แตกแยกออก (ซูเราะฮฺที่84 อัลอินชิก๊อก ญุซอฺที่30)

2 And listens to and obeys its Lord and it must do so (Surah 84. Al-Inshiqaq, Part30)

2 และมันได้เชื่อฟังพระเจ้าผีของมันและมันจำต้องกระทำเช่นนั้น (อัลลอฮฺพระเจ้าผี ทรงแจ้งให้ทราบว่าเมื่อชั้นฟ้าได้แตกแยกออกจากกันเป็นสัญญาแจ้งถึงความหายนะของจักรวาล และมันจะเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าผีของมัน และมันจะยอมจำนนต่อคำประกาศิตของพระองค์และมันจำต้องเชื่อฟังและจงรักภักดี แล้วมันก็แตกแยกออกจากกัน) (ซูเราะฮฺที่84 อัลอันชิก๊อก ญุซอฺที่30)

มันเป็นประกาศิตของอัลลอฮฺพระเจ้าผี แม้ท้องฟ้าก็ต้องยอมจำนน และมันจำต้องเชื่อฟังและจงรักภักดี

คำถามคือ

1.อัลลอฮฺพระเจ้าผี คิดไปเองฝ่ายเดียว ใช่หรือไม่.

2.อัลลอฮฺพระเจ้าผี สามารถสั่งแผ่นดินให้แยก ได้ด้วยหรือไม่.

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีใช้ขี้เถ้าเสกน้ำให้มีความศักดิ์สิทธิ์" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีใช้ขี้เถ้าเสกน้ำให้มีความศักดิ์สิทธิ์” ตามธรรมชาติของมนุษย์ผู้โง่เขลา ย่อมเรียกร้องหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเป็นที่พึ่งพาแลอาศัยเพื่อขจัดปัดเป่า สิ่งชั่วร้ายและสิ่งสกปรกโสโครกทั้งปวง ยาห์เวห์พระเจ้าผีจึงอาศัยจังหวะแสดงความอวดรู้ในการเสกน้ำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ หลักฐานดั่งนี้

บางส่วนในไบเบี้ย

17 And for an unclean person they shall take of the ashes of the burnt heifer of purification for sin, and running water shall be put thereto in a vessel: (Number 19:17).

17 คนที่เป็นมลทินต้องเอาขี้เถ้าจากการเผาบูชาลบล้างบาป และเอา้น้ำที่ไหลเติมเข้าไปในภาชนะ (กันดารวิถี 19:17)

18 And a clean person shall take hyssop, and dip it in the water, and sprinkle it upon the tent, and upon all the vessels, and upon the persons that were there, and upon him that touched a bone, or one slain, or one dead, or a grave (Number 19:18)

18 แล้วให้คนสะอาดเอากิ่งหุสบจุ่มน้ำนั้น แล้วประพรมที่เต็นท์ เครื่่องใช้ทั้งหมดบนตัวคนทั้งหลายที่อยู่ที่นั่น และบนตัวคนที่แตะต้องกระดูกหรือคนถูกฆ่า หรือคนตายหรือหลุมศพ (กันดารวิถี 19:18)

19 And the clean person shall sprinkle upon the unclean on the third day, and on the seventh day: and on the seventh day he shall purify himself, and wash his clothes, and bathe himself in water, and shall be clean at even. (Number 19:19)

19 ให้คนที่สะอาดประพรมคนที่เป็นมลทินในวันที่สามและวันที่เจ็ดแล้วในวันที่เจ็ดเขาจะทำให้คนนั้นสะอาด และเขาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำแล้วเขาจะสะอาดในเวลาเย็น (กันดารวิถี 19:19)

ช่างศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักน้ำคลุกขี้เถ้าจากการเผาบูชา สามารถชำระล้างให้ร่างกายมนุษย์สะอาดไร้มลทินด้วยวิธีการประพรม แต่ก็มีข้อให้ขบคิดว่าจริงๆแล้วการอาบน้ำและซักเสื้อผ้าด้วยน้ำคลุกขี้เถ้า หรือน้ำสะอาดกันแน่ที่ทำให้สะอาดในเวลาเย็น

คำถามคือ

1.เป็นวิธีการเดียวกันกับศาสนาพราหมณ์ที่ใช้น้ำคลุกทุกอย่างทั้งซากศพ ขี้เถ้าอย่างน้ำในแม่น้ำคงคา เพื่อชำระล้างมลทิน ใช่หรือไม่

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีห้ามกันเคราหรือขลิบหนวด" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีห้ามกันเคราหรือขลิบหนวด” ตามที่ดาวินซี่เสนอทฤษฎีวิวัฒนาการบรรพบุรุษของมนุษย์นั้นสืบเชื้อสายมาจากออสตราโลพิเตคัส ซึ่งมีลักษณะขนเครามากมาย ยาห์เวห์พระเจ้าผีอาจจะอยากให้เหล่าลูกหลานไม่ลืมกำพืดของตัวเอง หลักฐานดั่งนี้

บางส่วนไบเบี้ย

27 Ye shall not round the corners of your heads, neither shalt thou mar the corners of thy beard. (Leviticus 19:27)

27 ห้ามกันผมที่จอนหูหรือกันเคราของเจ้า. (เลวีนิติ 19:27)

ยาห์เวห์พระเจ้าผีอาจหลงใหลและชื่นชอบชายที่มีหนวดเครา เซ็กซี่นิดๆ

โดย"ท่านจะต้องไม่ตัดผมด้านข้างหรือขริบหนวดเครา"

คำถามคือ

1.ถ้าการเชื่อยาห์เวห์พระเจ้าผี คือการได้บุญ และการไว้หนวดเคราได้บุญอย่างไรโปรดอธิบาย

2.เหล่านี้ครอบคลุมถึงอวัยวะเพศด้วยหรือไม่

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีชื่นชอบการทรมานทารกเพศชาย" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีชื่นชอบการทรมานทารกเพศชาย” ด้วยยาห์เวห์พระเจ้าผีทรงอยากให้ทารกเพศชายได้รับความเจ็บปวด ตั้งแต่ทารกเพศชายอายุเพียงแปดวัน หลังฐานดังนี้

บางส่วนในไบเบี้ย

10 This is my covenant, which ye shall keep, between me and you and thy seed after thee; Every man child among you shall be circumcised. (Genesis 17:10).

10 นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งพวกเจ้าจะต้องรักษาระหว่างเรากับพวกเจ้า และเชื้อสายต่อมาของเจ้าคือผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุหนัต (ปฐมกาล 17:10).

11 And ye shall circumcise the flesh of your foreskin; and it shall be a token of the covenant betwixt me and you. (Genesis 17:11).

11 เจ้าจงเข้าสุหนัตตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของเจ้า นี่จะเป็นหมายสำคัญของพันธสัญญาระหว่างเรากับพวกเจ้า (ปฐมกาล 17:11).

12 And he that is eight days old shall be circumcised among you, every man child in your generations, he that is born in the house, or bought with money of any stranger, which is not of thy seed. (Genesis 17:12).

12 ผู้ชายที่มีอายุแปดวันต้องเข้าสุหนัต คือชายทุกคนตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้าเป็นคนที่เกิดในบ้านของเจ้าก็ดี หรือที่เอาเงินซื้อมาจากคนต่างด้าว ซึ่งไม่ใช่เชื้อสายของเจ้าก็ดี (ปฐมกาล 17:12)

ยาห์เวห์พระเจ้าผีต้องการให้ทารกเพศชายได้รับความเสียวซ่าน และความเจ็บปวดไปพร้อมกัน และได้

สาปแช่งไว้ว่า "ชายคนใดที่ไม่ได้เข้าสุหนัต คือไม่ได้เข้าสุหนัตเนื้อหนังด้วยการตัดหนังหุ้มปลายองคชาต จะต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา เขาได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา" ช่างเป็นพระเจ้าผีที่ทรงเมตตากรุณาและปรานียิ่งนัก.

คำถามคือ

1.เด็กทารกเพศชาย สามารถรับรู้ความเสียวซ่านได้หรือไม่

2.ยาห์เวห์พระเจ้าผีเป็นพวกซาดิสม์มีจิตผิดปกติ หรือไม่

ทฤษฎี"อัลลอฮฺพระเจ้าผีแบ่งแยกศาสนา" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”อัลลอฮฺพระเจ้าผีแบ่งแยกศาสนา” ด้วยอัลลอฮฺพระเจ้าผีทรงรังเกียจพวกต่างศาสนา ทรงเกรงว่า การงานที่ชั่วช้าของพวกต่างศาสนาจะทำให้สาวกเอาใจออกห่าง ดังนั้นอัลลอฮฺพระเจ้าผีจึงทรงประทานซูเราะฮฺนี้มา หลักฐานดังนี้

บางส่วนในกุรอ่าน

6.”To you be your religious, and to me my religion (Islamic Monotheism).” (Surah 109. Al-Kafirun Part30).

6.สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่านและสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน (ซูเราะฮฺที่109, อัลกาฟิรูน, ญุซอฺที่30).

คำถามคือ

1.ทำไมอัลลอฮฺพระเจ้าผีถึงใจคอคับแคบ เยี่ยงนี้

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีชื่นชอบเลือดสดๆ" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีชื่นชอบเลือดสดๆ” ด้วยพระเจ้าผีมักจะสถิตอยู่ที่พระที่กรุณาที่มีเลือดสดๆของสัตว์เคราะห์ร้ายประพรมอยู่ ดังหลักฐานดั่งนี้

บางส่วนในไบเบี้ย

14 And he shall take of the blood of the bullock, and sprinkle it with his finger upon the mercy seat eastward; and before the mercy seat shall he sprinkle of the blood with his finger seven times. (Leviticus 16:14)

14 ให้เขาเอาเลือดโคเล็กน้อยประพรมหน้าพระที่นั่งกรุณา โดยประพรมเลือดที่พระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้งด้วยนิ้วมือของเขา (เลวีนิติ 16:14)

15 Then shall he kill the goat of the sin offering, that is for the people, and bring his blood within the vail, and do with that blood as he did with the blood of the bullock, and sprinkle it upon the mercy seat, and before the mercy seat: (Leviticus 16:15)

15 "แล้วให้อาโรนฆ่าแพะที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปสำหรับประชาชน นำเลือดแพะเข้าไปภายในม่านเอาเลือดแพะไปทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดโค คือประพรมบนพระที่นั่งกรุณาและที่ข้างหน้าพระที่นั่งกรุณา (เลวีนิติ 16:15)

โอ พระเจ้าผีผู้ทรงมีเมตตากรุณาและปรานี จะทรงชื่นชอบเลือดสดๆ จากสัตว์เคราะห์ร้ายเยี่ยงนี้ ช่างเป็นผีซาตานโดยแท้ นี้หรือความเมตตากรุณาและปรานีจากยาห์เวห์พระเจ้าผี ผมไม่แปลกใจที่สาวกจะฆ่ากันเองเพื่อบูชายาห์เวห์พระยาผี

คำถามคือ

1.ยาห์เวห์พระเจ้าผี ต่างจากผีป่าผีดอยผีกองกอย อย่างไร

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีห้ามกินหมู" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีห้ามกินหมู” ด้วยพระเจ้าผีรังเกียจหมูที่เป็นสิ่งสกปรกเป็นสัตว์มีกีบแต่ไม่เคี้ยวเอี้ยง มีคุณสมบัติไม่ครบต่อการบริโภคสำหรับสาวกเป็นของไม่สะอาด จึงทรงสั่งห้ามหลักฐานดังนี้

บางส่วนในไบเบี้ย

7 And the swine, though he divide the hoof, and be clovenfooted, yet he cheweth not the cud; he is unclean to you. (Leviticus 11:7).

7 หมู เพราะมันเป็นสัตว์แยกกีบและมีกีบผ่าแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์ที่เป็นมลทิน (ไม่สะอาด) สำหรับเจ้า (เลวีนิติ 11:7)

8 Of their flesh shall ye not eat, and their carcase shall ye not touch; they are unclean to you. (Leviticus 11:8)

8 ห้ามรับประทานเนื้อของสัตว์เหล่านี้ และห้ามแตะต้องซากของมัน มันเป็นสิ่งที่เป็นมลทิน (ไม่สะอาด) สำหรับเจ้า (เลวีนิติ 11:8)

สัตว์ที่เคี้ยวเอื้องและมีกีบเท้าแยก แน่นอนไม่ใช่หมู และหมูก็เป็นสัตว์ที่ไม่เคี้ยวเอื้องแต่มีกีบเท้าแยก นี้เป็นความบกพร่องของยาห์เวห์พระเจ้าผี หรือเป็นการสะเพร่าในระหว่างการสร้างสิ่งมีชีวิตอันน่าขบขัน สำหรับผู้หลงเชื่องมงาย.

คำถามคือ

1.ทำไมยาห์เวห์พระเจ้าผีไม่สร้างหมู ให้เป็นสัตว์ที่มีกีบแยกและเคี้ยวเอี้ยง เหล่าสาวกจะได้กิน อย่างเอร็ดอร่อย.

2.แท้จริงแล้วยาห์เวห์พระเจ้าผี ไม่ได้สร้างสรรพสัตว์ใดๆเลย ใช่หรือไม่.

ทฤษฎี"นะบีอีซา (เยซู) ยังไม่ตายแต่ขึ้นไปอยู่กับพระเจ้าผี" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”นะบีอีซา (เยซู) ยังไม่ตายแต่ขึ้นไปอยู่กับพระเจ้าผี” ด้วยพระเจ้าผีให้คนไปตายแทนและรับพระเยซูมาทั้งๆที่มีชีวิต หลักฐานดังนี้

บางส่วนในกุรอาน

117.”Never did I (Jesus) say to them aught except what You (Allah) did command me to say: ‘Worship Allah, my Lord and your Lord.’ And I was a witness over them while I dwelt amongst them, but when You took me up, You were the Watcher over them; and You are a Witness to all things. (This is a great admonition and warning to the Christians of the whole world). (Surah5. Al-Ma’idah, Part7)

117ข้าพระองค์ (นะบีอีซา) มิได้กล่าวแก่พวกเขา นอกจากสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์เท่านั้น ที่ว่าท่านทั้งหลายจงเคารพสักการะต่ออัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าของฉัน และเป็นพระเจ้าของพวกท่านด้วย และข้าพระองค์ย่อมเป็นพยานยืนยันต่อพวกเขาในระยะเวลาที่ข้าพระองค์อยู่ในหมู่พวกเขา ครั้นเมื่อพระองค์ได้ทรงรับข้าพระองค์ไปแล้ว (ได้ทรงยกข้าพระองค์ขึ้นมายังพระองค์ทั้งชีวิตและร่างกาย ขณะที่พวกเขาจะเอาชีวิตข้าพระองค์) พระองค์ท่านก็เป็นผู้ดูแลพวกเขา และพระองค์ทรงเป็นสักขีพยานในทุกสิ่ง. (ซูเราะฮฺที่5, อัล-มาอิดะฮฺ, ญุซอฺที่7)

กุรอานบอกชัดว่านะบีอีซา (เยซู)ยังไม่ตายแต่หลบหนีการตามล่าจากยิวไปอยู่กับอัลลอฮฺพระเจ้าผี ช่างให้ที่พักและที่หลบภัยกับนักโทษ

คำถามคือ

1.ทำไมมูฮัมมัดไม่ได้ขึ้นสวรรค์ทั้งๆที่มีชีวิตตัวเป็นๆอย่างเยซู (สองมาตรฐานหรือเปล่า)

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีอนุญาติให้พี่ชายแต่งงานกับน้องสาวได้" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีอนุญาติให้พี่ชายแต่งงานกับน้องสาวได้” ด้วยพระยาห์เวห์พระเจ้าผียอมรับการแต่งงานของ อับราฮัมและน้องสาวของตน (นางซาร่า) หลักฐานดังนี้

บางส่วนของไบเบี้ย

2 And Abraham said of Sarah his wife, She is my sister: and Abimelech king of Gerar sent, and took Sarah. (Genesis 20:2)

2 ​อับ​รา​ฮัม​พูด​ถึง​นาง​ซา​ราห์ ภรรยา​ของ​ตน​ว่า “เธอ​เป็น​น้องสาว​ของ​ข้าพ​เจ้า” และ​อา​บีเมเลค กษัตริย์​แห่ง​เก​ราร์​ทรง​สั่ง​คน​มา​รับ​นาง​ซา​ราห์​ไป​พบ (ปฐมกาล 20:2)

3 But God came to Abimelech in a dream by night, and said to him, Behold, thou art but a dead man, for the woman which thou hast taken; for she is a man's wife. (Genesis 20:3)

3 แต่​พระ​เจ้า​ผีเสด็จ​มา​หา​อา​บี​เม​เลค​ทาง​พระ​สุบิน​ใน​เวลา​กลาง​คืน และ​ตรัส​กับ​อา​บี​เม​เลค​ว่า “เจ้า​จะ​ต้อง​ตาย เพราะ​หญิง​ซึ่ง​เจ้า​นำ​มา​นั้น​มี​สามี​แล้ว” (ปฐมกาล 20:3)

การแต่งงานระหว่างพี่น้อง เป็นเรื่องปรกติสำหรับโลกของความจริงดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าผีจึงเข้าฝันอาบีเลค และทรงรับรองการเป็นสามีภรรยาของอับราฮัมและนางซาร่า.

คำถามคือ

1.อับราฮัมเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้าผี ที่ท่านยอมรับนับถือใช่หรือไม่

2.อับราฮัมหลงใหลน้องสาวของตน เป็นเรื่องผิดปรกติหรือไม่

ทฤษฎี"ยาห์เวห์พระเจ้าผีอนุญาติให้ลูกสาวตั้งครรภ์กับบิดา" หลักฐานชัด

ผมขอเสนอทฤษฎี”ยาห์เวห์พระเจ้าผีอนุญาติให้ลูกสาวตั้งครรภ์กับบิดา” ด้วยไม่มีบรรดาชายใดต้องการแต่งงานกับลูกสาวของโลท โลทจึงสมสู่กับลูกสาวทั้งสองของตน หลักฐานดังนี้

บางส่วนของไบเบี้ย

36 Thus were both the daughters of Lot with child by their father. (Genesis 19:36).

36 ดัง​นั้น​บุตร​หญิง​ทั้ง​สอง​ของ​โลท​จึง​ตั้ง​ครรภ์​กับ​บิดา​ของ​พวก​นาง​เอง (ปฐมกาล 19:36).

37 And the firstborn bare a son, and called his name Moab: the same is the father of the Moabites unto this day. (Genesis 19:37).

37 คน​หัว​ปี​คลอด​บุตร​ชาย​คน​หนึ่ง และ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า​โมอับ เขา​เป็น​บรรพ​บุรุษ​ของ​คน​โมอับ​จน​ทุก​วัน​นี้ (ปฐมกาล 19:37).

38 And the younger, she also bare a son, and called his name Benammi: the same is the father of the children of Ammon unto this day. (Genesis 19:38).

38 ส่วน​คน​น้อง​คลอด​บุตร​ชาย​คน​หนึ่ง​ด้วย และ​ตั้ง​ชื่อ​ว่า เบน-อัมมี เขา​เป็น​บรรพ​บุรุษ​ของ​คน​อัม​โมน​จน​ทุก​วัน​นี้ (ปฐมกาล 19:38).

ช่างน่าภูมิใจเหลือเกิน ที่ลูกสาวแท้ๆสมสู่กับพ่อแท้ๆ จนมีลูกหลานสืบเผ่าพันธ์ จนถึงทุกวันนี้และไม่มีโองการลงโทษใด นั่นแสดงว่ายาห์เวห์พระเจ้าผีรู้เห็นเป็นใจ และพอใจการกระทำของโลท (นะบีลูฎ)

คำถามคือ

1.โลทคือผู้เผยแพร่พระวจนะของพระเจ้าผีคนหนึ่ง ที่ท่านยอมรับนับถือใช่หรือไม่

2.โลทไม่ต้องรับบทลงโทษใดเลย นั้นสมควรแล้วหรือ