ผมขอเสนอทฤษฎี”อิสลามนับถือโตหร่าห์”
ทั้งๆที่เป็นคัมภีร์ของยิวที่เป็นศัตรูตัวฉกาจและตลอดกาลของอาหรับแต่อัลลอฮฺได้บังคับไว้
ตามหลักฐานดังนี้
บางส่วนในกุรอาน
44. Verily,
We did send down the Taurat (Torah) [to Musa (Moses)], therein was guidance and
light, by which the Prophets, who submitted themselves to Allah’s Will, Judged
for the Jews. And the rabbis and the priests [too judged for the Jews by the
Taurat (Torah) after those Prophets], for to them was entrusted the protection
of Allah’s Book, and they were witnesses thereto. Therefore fear not men but
fear Me (O Jews) and sell not My Verses for a miserable price. And whosoever
does not judge by what Allah has revealed, such are the Kafirun (i.e.
disbelievers- of a lesser degree as they do not act on Allah’s Laws). (Surah5.
Al-Ma’idah, Part6)
44.แท้จริงเราได้ให้อัต-เตารอต
(โตหร่าห์)ลงมา โดยที่ในนั้นมีข้อแนะนำและแสงสว่าง
ซึ่งบรรดานะบีที่สวามิภักดิ์ได้ใช้อัต-เตารอตตัดสินบรรดาผู้ที่เป็นยิว
และบรรดาผู้ที่รู้แล้วในอัลลอฮฺ และนักปราชญ์ทั้งหลายก็ได้ใช้อัต-เตารอต
ตัดสินด้วย เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้รักษาไว้ (นั่นคือ)
คัมภีร์ของอัลลอฮฺและพวกเขาก็เป็นพยานยืนยันในคัมภีร์นั้นด้วย ดังนั้นพวกเจ้า
จงอย่ากลัวมนุษย์ แต่จงกลัวข้าเถิด
และจงอย่าแลกเปลี่ยนบรรดาโองการของข้ากับราคาอันเล็กน้อย
และผู้ใดที่มิได้ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงประทานลงมาแล้วชนเหล่านี้แหละคือผู้ปฏิเสธการศรัทธา.
(ซูเราะฮ์ที่5, อัล-มาอิดะฮฺ, ญุซอฺที่6).
หลักฐานจากกุรอ่าน
ข้างต้นนั้นน่าจะเพียงพอถึงการยืนยันว่า เตารอต
(โตหร่าห์)เป็นคัมภีร์ที่มุสลิมต้องศึกษาด้วย
ทฤษฎี”อิสลามนับถือโตหร่าห์”ยังคงอยู่ตามหลักฐานที่ยกมาท่านใดจะแย้งเชิญเสนอหลักฐานที่มีที่มาที่ไปหรือดีเบตกับผมได้ที่
http://buddhist.createdebate.com
คำถามคือ
1.ระหว่างคัมภีร์โตหร่าห์กับกุรอาน
คัมภีร์ใดถือเป็นกฎหมายสูงสุด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น