ผมขอเสนอทฤษฎี”อัลลอฮฺพระเจ้าผีอนุญาตให้กินหมู” อัลลอฮฺพระเจ้าผีอนุญาตให้กินหมูทั้งที่ถูกเชือดในนามของอัลลอฮฺ
หรือในนามอื่น หลักฐานดังนี้
บางส่วนในกุรอาน
3
Forbidden to you (for food) are: Al-Maitah (the dead animals-cattle-beast not
slaughtered), blood, the flesh of swine, and that on which Allah’s Name has not
been mentioned while slaughtering, (that which has been slaughtered as a
sacrifice for others than Allah, or has been slaughtered for idols) and that
which has been killed by strangling, or by a violent blow, or by a headlong
fall, or by the goring of horns- and that which has been (partly) eaten by a
wild animal-unless you are able to slaughter it (before its death)- and that
which is sacrificed (slaughtered) on An-Nusub (stone-altars). (Forbidden) also
is to use arrows seeking luck or decision; (all) that is Fisqun (disobedience
of Allah and sin). This day, those who disbelieved have given up all hope of
your religion; so fear them not, but fear Me. This day, I have perfected your
religion for you, completed My Favour upon you, and have chosen for you Islam
as your religion. But as for him who is forced by severe hunger, with no
inclination to sin (such can eat these above mentioned meats), then surely,
Allah is Oft-Forgiving, Most Merciful. (Surah5. Al-Ma’idah, Part6)
3 ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว
ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง (นอกจากสัตว์น้ำ)และเลือด (เลือดที่ไหลออกขณะเชือด
ส่วนที่ติดอยู่ในเนื้อนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม)และเนื้อสุกร
(ทุกส่วนในตัวของมันด้วย) และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺที่มัน (ขณะเชือด)
และสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย (ที่ถูกหนีบคอและบีบคอตาย) และสัตว์ที่ถูกตีตาย
(ที่ถูกทุบตายและขว้างให้ตายด้วย) และสัตว์ที่ตกเหวตาย (ที่ตกบ่อตาย
หรือจมน้ำตายด้วย) และสัตว์ที่ถูกขวิดตาย
(สัตว์ที่ถูกชนตายด้วยจะถูกชนด้วยรถยนต์หรือรถไฟก็ตาม) และสัตว์ที่สัตว์ร้ายกัดกิน
นอกจากที่พวกเจ้าเชือดกัน (มันยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่เชือด)
และสัตว์ที่ถูกเชือดบนแท่นหินบูชา
(แท่นบูชานี้มุชริกมักกะฮฺได้จัดวางไว้รอบกะอฺบะฮฺ
เพื่อเป็นที่เชือดสัตว์บูชาแก่เจว็ดของพวกเขา)
และการที่พวกเจ้าเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว
(ดุ้นไม้ที่เหลาคล้ายลูกธนูรวมสามดุ้นด้วยกัน ดุ้นหนึ่งเขียนไว้ว่า พระเจ้าใช้ฉัน
อีกดุ้นหนึ่งเขียนว่าพระเจ้าห้ามฉัน และอีกดุ้นหนึ่งมิได้เขียนอะไรไว้
ถ้าพวกเขาต้องการจะทำสิ่งใด ก็จะทำการเสี่ยงทายด้วยติ้วดังกล่าว
ถ้าจับได้ติ้วที่มิได้มีข้อเขียนใดๆ ก็จะจับใหม่
จนกว่าจะได้ติ้วที่แนะนำให้ทำหรือมิให้ทำอย่างไรก็ดี
เครื่องเสี่ยงทายนั้นมีประเภทอื่นๆอีก ซึ่งก็อยู่ภายใต้ข้อห้ามนี้ทั้งหมด) เหล่านั้นเป็นการละเมิด
วันนี้ (วันอะเราะฟะฮฺ ของอัจญะตุลวะตาอฺ ในปีที่ 10 ฮิจญเราะฮฺ)
บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธา (มุชริกชาวมักกะฮฺ) หมดหวังในศาสนาของพวกเจ้าแล้ว
(หมดหวังที่จะให้สาวกของท่านนะบีมุฮัมมัดกลับเป็นมุชริกดังเดิม)
ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวข้าเถิด
วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้าและข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว
ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า
(ให้ท่านนะบีได้เข้ายึดครองมักกะฮฺไว้ได้โดยมิได้เสียเลือดเนื้อ)
และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว ผู้ใดได้รับความคับขันในความหิวโหย
(จำเป็นจะต้องใช้อาหารประเภทต้องห้ามดังกล่าวบริโภคเพื่อประทังชีวิตแล้วก็อนุญาตให้บริโภคได้โดยไม่มีบาปใดๆ)
โดยมิใช่เป็นผู้จงใจกระทำบาปแล้วไซร้ (มิใช่ผู้สร้างสถานะการณ์ให้คับขัน
โดยมีเจตนาจะบริโภคอาหารที่เป็นที่ต้องห้ามเหล่านั้น) แน่นอนอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงอภัยโทษผู้ทรงเมตตาเสมอ.
(ซูเราะฮฺที5, อัล-มาอิดะฮฺ, ญุซอที่6).
ยามอิสลามจะอดตาย
กฎทุกกฎย่อมได้รับการยกเว้น นะบีมูฮัมมัดเป็นพยานทฤษฎี”อัลลอฮฺพระเจ้าผีอนุญาตให้กินหมู”
คำถามคือ
1.ในยามเหนื่อยยากคับขัน
เราสามารถปฏิเสธกุรอานได้หรือไม่
ผู้รับคำทำนายของพระเจ้า
ตอบลบ`` ``
Atmak คำไม่จำเป็นต้องหมายความว่าผู้ที่ฉันยึดมั่นใน 'แต่ Infact ชื่อ
เขียน Atmak เป็นאתמך
เขียนของอาหมัดเป็นאחמד
อิสยาห์ 42:1
พระเจ้าตรัสว่า
"ดูเถิด 'คนรับใช้ของฉัน' (ออกเสียงเป็นอับดุล-EE), 'ผู้ที่ฉันรักษา' (ออกเสียงเป็น Atmak);
พระเจ้าพูดถึงเกี่ยวกับการมาถึงของคนรับใช้ของเขา
ดูเถิดผู้รับใช้ของฉันอาหมัด (อิสยาห์ 42:1) - ดังนั้นคนที่เป็นอาหมัดนี้เช่นเดียวกับใน God'servant?
เขาเป็นใครอื่นนอกจาก
อับดุลอัลเลาะห์อาหมัด (คนรับใช้ของพระเจ้าอาห์เหม็) - ศาสดามูฮัมหมัดเห็น